วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ก้าวใหม่ไปกับ PMQA สคร.5



  
ผ่านมา ๔ เดือนเศษๆของปีงบประมาณ  ๒๕๕๕ เร็วเหมือนจรวด ไวปานวอก อะไรประมาณนั้น แต่ก็พยายามก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด เริ่มจาก PMQA สัญจร ใช้เวลาเดือนเศษๆ และก็มีงานเข้ามาเป็นระยะๆ ที่มากคืองานประชุม วันละ ๒ ประชุมก็มี ต่อด้วยงานใหญ่เทอญพระเกียรติ์ ร่วมไปกับการเปิดชมรมจริยธรรม และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยการกวาดลานวัดที่วัดศาลาลอย,  จัดประชุม OD ที่เน้นพัฒนาตนเอง ให้เกิดการพัฒนางานให้มีคุณภาพ, การจัดงานปีใหม่ที่ใช้เวลาเตรียมงานน้อยมาก ต้องร่วมกันหลายฝ่าย และบางฝ่ายก็ไม่อยากจะร่วมก็มี ได้นำเงินในโครงการบางส่วนและเงินจากการรำวงย้อนยุค และออกบู๊ธ ISMART ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน มีการแข่งกีฬาระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน, แจกอุปกรณ์การเรียน/สบทบทุนสร้างอาคารในเรียนในวันเด็ก, จัดไหว้พระ ๙ วัดที่สระบุรี, กิจกรรมบุญต่างๆ (กฐิน, ผ้าป่า, ทำหนังสือ, ฟังเทศน์, สวดมนตร์ทำวัตรเย็นนั่งสมาธิ), การจัดประชุมการถ่ายทอดตัวชี้วัดลงรายบุคคล ๒ ครั้ง, สคร.7 และ8 ดูงาน PMQA สุดท้ายคือการไปดูงานที่อุบล ถือโอกาสทำบุญถวายเครื่องกันหนาวพระสงค์/ไหว้พระ/ทำบุญ และแถมด้วยการส่งขวัญย้ายไปสคร.๗ อุบล ทุกกิจกรรมนำโดยท่านผอ.สคร.๕ นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้นำ ทั้งสมถะ เรียบง่าย และพอเพียง
  ผ่านจนมาถึง ณ ตอนนี้ทำให้ได้รู้ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยพบเคยเจออยู่ตลอดเวลา ปกติจะทำงานอยู่ในห้องเล็กๆไม่กี่คน ง่วนอยู่กับข้อมูล และระบบไอที พอได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่เพิ่มขึ้น ต้องรับงานเพิ่มอีกหลายงาน แต่ด้วยความที่เป็นคนทำงานแบบไม่ค่อยมีเงื่อนไข มีเงินไม่มีก็ทำได้ เพราะคิดว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในการทำงาน เงินเดือนหลวงก็จ่ายให้อยู่แล้วถึงแม้เงินเดือนจะเต็มเพดานแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังต้องใช้หลักการยืดหยุ่นผ่อนปรนค่อนข้างมาก แต่บางอย่างถ้าเสียหลักการก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และผู้บริหารคนใหม่ ก็ทำให้อะไรๆยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก และปัญหาที่แต่ละคนช่วยกันสร้างสมกันมาอย่างยาวนานก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ทุกวันนี้หวังเพียงว่าทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำให้องค์กรอยู่รอดปลอดภัยภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย โดยส่วนตัวมีอายุการทำงานนานกว่า ๓๐ ปี พบเจออะไรมาเยอะมาก คิดว่าเพียงพอแล้วกับชีวิตการทำงานที่จะต้องต่อสู้ดิ้นรนที่เหลือคือกำไร และจะทำประโยชน์ให้แก่องค์กร สังคม เพื่อส่งผลถึงประเทศชาติได้อย่างไร ให้สมกับเป็นข้ารองพระบาท และกินเงินเดือนภาษีของประชาชน แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นอย่างที่คาดหวังก็น่าจะต้องพิจารณาตัวเอง
ทุกวันนี้ภัยพิภัยจากภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เกิด สิ่งเดียวที่คิดว่าจะทำให้รอดพ้นทุกข์ภัยหรือถ้าเจอก็ขอให้หนักกลายเป็นเบา และผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คือการมุ่งทำแต่ความดี มองทุกคนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย รู้สึกดีๆต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามสมควร ดูแลรักษากายจิตด้วยการควบคุมตัวเองให้อยู่ในศีลในธรรม ไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น โดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เราคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรใครได้ นอกจากตัวของเราเอง ขอความสงบสุขจงเกิดขึ้นแก่สังคม ประเทศชาติ และโลก ด้วยการแบ่งปันและอยากให้ผู้อื่นมีความสุขด้วยความเมตตา กรุณา...และเปลี่ยนจากผู้รับมาเป็นผู้ให้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด...

    ภาพกิจกรรม :
http://www.dpck5.com/Pic-Activity/54-DPC7-2Dec/myalbum.htm
            http://www.dpck5.com/Pic-Activity/54-Integrity9Temple-9Dec54/myalbum.htm
http://www.dpck5.com/Pic-Activity/54-IndividualDevelopment-1-14-15Dec54/myalbum.htm
            http://www.dpck5.com/Pic-Activity/54-IndividualDevelopment-2-20-21Dec54/myalbum.htm
            http://www.dpck5.com/Pic-Activity/54-IndividualDevelopment-3-22-23Dec54/myalbum.htm          
            http://www.dpck5.com/Pic-Activity/55-DPC8-10Jan55/myalbum.htm
            http://www.dpck5.com/Pic-Activity/55-DPC5NewYear-6Jan55/myalbum.htm
http://www.dpck5.com/Pic-Activity/55-Child-13Jan55/myalbum.htm
http://www.dpck5.com/Pic-Activity/55-MOU&PMS-19Jan55/myalbum.htm
  ก็บมาฝาก : คนเรามักคิดถึงการชนะคนอื่น จนมองข้ามการชนะใจตนเอง แต่ถ้าอยากจะชนะใจตนเองได้ก็ต้องวางความคิดที่จะชนะผู้อื่นเสียก่อน - พระไพศาล วิสาโล

1 ความคิดเห็น:

  1. ดีจังเลยมี blog ใหม่เพิ่มขึ้นอีกแล้วจะได้แชร์กันได้เต็มที่เลยนะ น้องนิ่ม
    พี่ต๋อมจ้า

    ตอบลบ